ภาพประกอบจาก Internet |
นพ.วิทิต อรรถเวชกุล ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม (อภ.) เปิดเผยว่า โรคกรดไหลย้อนเป็นโรคที่เกิดจากภาวะน้ำย่อยในกระเพาะมีฤทธิ์เป็นกรด จะไหลย้อนขึ้นไปในหลอดอาหาร ส่งผลให้มีการระคายเคืองบริเวณลำคอ หรือว่าแสบยอดอก จุกเสียดบริเวณใต้ลิ้นปี่ รวมทั้งบางรายอาจมีอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ คลื่นไส้อาเจียน ร่วมด้วย อาการคล้ายๆ กับโรคกระเพาะ ทำให้คนส่วนใหญ่คิดว่าเป็นโรคกระเพาะ ซึ่งมีสาเหตุมาจากพยาธิสภาพ คือ การทำงานของหูรูดอาหารส่วนล่างที่ต่อจากกระเพาะอาหารมีความผิดปกติ มีลักษณะหย่อนลงไป อาจเกิดเนื่องจากอายุที่มากขึ้น ทำให้ประสิทธิภาพของหูรูดหย่อนไป ส่งผลให้กรดจากกระเพาะไหลย้อนขึ้นมาบริเวณหลอดอาหาร บางรายอาจเกิดจากระดับการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน หรือมีความสัมพันธ์กับโรคอ้วน โรคเบาหวาน หรือบางรายเกิดจากโรคไส้เลื่อน กระบังลมหย่อน ทำให้เกิดภาวะโรคนี้ขึ้นได้
ภาพประกอบจาก Internet |
ผอ.อภ.ได้กล่าวถึงยาที่ใช้ในการรักษาโรคกรดไหลย้อน ว่า ยากลุ่มหลักๆ ได้แก่ ยายับยั้งกลุ่มโปรตอนปั๊ม หรือโปรตอนปั๊มอีดิเตอร์ ยาที่ใช้รักษาภาวะกรดไหลย้อนได้ดีที่สุดชื่อโอเมทโทรโซน ขนาด 20 มิลลิกรัม รับประทานวันละ 1-2 ครั้ง ตามแต่อาการของโรค รับประทานติดต่อกันเป็นเวลา 6-8 สัปดาห์ หรืออาจใช้เวลามากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับอาการของผู้ป่วยที่มีภาวะกรดไหลย้อนมากหรือเป็นมานานอาจต้องปรับเวลาในการรับประทานเป็นระยะๆ ขึ้นอยู่กับอาการที่มี หรืออาจต้องทานต่อเนื่องมากกว่านั้น
นอกจากยาในกลุ่มนี้แล้ว ยังมียาอีกกลุ่มหนึ่งที่เป็นยาเพิ่มการเคลื่อนไหวของทางเดินอาหารร่วมด้วย เช่น ยาเม็ดโทรโพทามาย หรือดอมพาลิโดน ซึ่งยาทั้งสองชนิดนี้ จะต้องรับประทานวันละ 3-4 ครั้ง ก่อนอาหาร ½ ชั่วโมง และทานร่วมกับยากลุ่มโปรตอนปั๊ม จะใช้ได้กับยา 2 กลุ่ม ซึ่งจะต้องรับประทานติดต่อกันเป็นเวลา 6-8 สัปดาห์ แม้จะไม่มีอาการแล้ว เนื่องจากโรคนี้มีสาเหตุมาจากพยาธิสภาพที่หลอดอาหาร ไม่เหมือนกับภาวะที่ท้องอืดธรรมดา หรืออาหารไม่ย่อยซึ่งภาวะเช่นนี้เราทานยาตามอาการได้ แต่โรคกรดไหลย้อนเกี่ยวเนื่องกับอวัยวะภายในด้วย ถ้าไปพบแพทย์ก็ต้องไปตามที่แพทย์นัด ทานยาให้ต่อเนื่องไม่เช่นนั้นโรคอาจกลับมาเป็นใหม่ หรือนำไปสู่ภาวะความเสี่ยงอื่นๆ...
ขอขอบคุณที่มาของภาพและบทความ:
www.manager.co.th